จิ้งจกร้องทัก ตามความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณ คือ ห้ามออกจากบ้าน ซึ่งในปัจจุบัน 2024 ความเชื่อนี้ยังหลงเหลือและยังสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยจะแบ่งกลุ่มเป็นคนที่ยังเชื่ออยู่คนที่ไม่เชื่อและคนที่เฉยๆแบบฟังหูไว้หู ซึ่งเรามาดูกันว่าความเชื่อเรื่องจิ้งจกหรือตุ๊กแกร้องทักก่อนออกจากบ้าน เราควรออกจากบ้านไหมและท่านผู้อ่านมีความคิดเห็นยังไงบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้
เจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ จิ้งจก ที่มักจะพบเห็นกันบ่อยๆตามบ้านเรือน รู้กันหรือไม่ว่าในอดีตมีความเชื่อเกี่ยวกับ “จิ้งจก” ที่มักจะถูกยึดถือกันเป็นอาถรรพ์ ลางสังหรณ์ และตัวบอกเหตุ ป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น นั่นก็คือจิ้งจกร้องทักห้ามออกจากบ้านหรือต้องเปลี่ยนเวลาออกจากบ้านนั่นเอง
ก่อนเราจะมาพูดถึง “ความเชื่อ” ในเรื่องที่ว่า จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน เรามาทำความรู้จักกับ “จิ้งจก” สัตว์เลื้อยคลานตัวน้อยๆกันก่อน จะจัดอยู่ในสัตว์เลื้อยคลานตระกูล Hemidactylus ซึ่งเป็นสัตว์ขนาดเล็กสามารถพบเห็นได้ทั่วๆไป ตามฝาผนังหรือบ้านเรือนเรา
ซึ่งจะแลบลิ้นกินแมลงใกล้ๆกับหลอดไฟ จะมีหลายพันธุ์มากๆในบ้านเราจะเจอบ่อยที่สุดคือ จิ้งจกบ้านขนาดตัวจะมีความยาวประมาณ 3 นิ้ว จนถึง 5 นิ้ว มีตัวสีน้ำตาลอ่อนๆกลมกลืนตามสภาพแวดล้อมที่อยู่ มีเท้าที่เหนียวไว้ยึดเกาะผนังหรือเพดาน โดยวัฏจักรของมันจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 5-10 ปี [1]
ตามหลักวิทยาศาสตร์และหลักการของธรรมชาติ ไม่มีความเชื่อด้านจิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน แต่ตามความคิดเห็นของผู้เขียน หากว่ามองจาก “ความเชื่อ” การที่จิ้งจกร้องทักคนโบราณไม่ให้ออกจากบ้าน น่าจะเป็นกุศโลบายที่คนสมัยก่อนไม่อยากให้ออกจากบ้าน เพราะเนื่องด้วยจิ้งจกมักจะร้องเป็นช่วงเวลานั่นก็คือช่วงเช้าตรู่และช่วงพลบค่ำ
ซึ่งเป็นกลอุบายที่แยบยลเพื่อไม่ให้คนออกจากบ้านในช่วงเวลานั้น ตอนเช้าอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เช้าจนเกินไป ไม่ควรออกไปไหน หรือตอนหัวค่ำ เพราะเมื่อก่อนตอนกลางคืนจะอันตรายและไม่ควรออกบ้านไปไหน โดยความเชื่อเรื่อง “จิ้งจกทัก” สามารถนำมาเป็นกุศโลบายเพื่อให้ลูกหลานหรือว่าคนในบ้านไม่ออกไปไหนหรือเปลี่ยนเวลาออกบ้านนั่นเอง
ข้อห้าม! ความเชื่อ! ข้อที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่อดีต ซึ่งแต่ละความเชื่อ แต่ละข้อห้าม มักจะมีที่มาที่ไปและเป็นเหตุผลที่น่าฟัง ซึ่งเป็นการเตือนของคนโบราณ ต้องการเตือนเหตุร้าย ต้องการเตือนเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน รวมไปถึงเป็นกุศโลบาย เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย เกิดเหตุร้ายและเหตุการณ์ที่ไม่คาดหวังเกิดขึ้น โดยความเชื่อเรื่องจิ้งจกร้องทักก็เป็นหนึ่งในนั้น
สำหรับความเชื่อจิ้งจกร้องทักสามารถแปลและตีความหมายได้หลายๆอย่าง ทั้งห้ามออกจากบ้านเป็นลางบอกเหตุและอื่นๆ ซึ่งจะมีอะไรบ้างเรามาดูกัน
และนี่เป็นเพียงความเชื่อบางส่วนเกี่ยวกับการร้องทักของจิ้งจกที่ยึดถือกันตั้งแต่โบราณ [2]
เรื่องความเชื่อเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็นเรื่องที่เชื่อกันเฉพาะบุคคล สำหรับความเชื่อเรื่องจิ้งจกร้องทักห้ามออกจากบ้านหรือเป็นลางบอกเหตุให้ระวังตัว ซึ่งมีคนไม่น้อยยังเชื่ออยู่และมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ สำหรับความเชื่อผู้ที่เชื่อย่อมมีเหตุผลส่วนตัว โดยปัจจุบันให้เป็นไปตามความรู้สึกของแต่ละบุคคล เช่น หากว่ายังเชื่อเรื่องลางบอกเหตุเมื่อมีจิ้งจกร้องทักก่อนออกจากบ้าน
ซึ่งเรามีความเชื่อและมีความกังวล การเปลี่ยนเวลาออกจากบ้านก็มีเหตุผล เพราะอารมณ์ส่งผลต่อการกระทำส่งผลต่อความรู้สึกและส่งผลต่อความมั่นใจ หากออกจากบ้านไปด้วยอารมณ์ผ่องใส ความเชื่อมั่นเต็มร้อย ทุกๆเรื่องจะราบรื่นและประสบผลสำเร็จ ดังนั้นการมีความเชื่อเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากว่าเราเชื่อจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น ย่อมจะส่งผลดีต่อตัวเราอย่างแน่นอน
สำหรับความเชื่อ จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณ และเป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมา จะสอดคล้องกับคนโบราณ เพื่อไม่ให้ลูกหลานดื้อซนไม่ให้ออกบ้านไปเล่นตอนหัวค่ำ เพื่อป้องกันเหตุร้ายอันตราย แต่ในยุคปัจจุบัน 2024 จึงไม่เป็นที่ยึดถือปฏิบัติ แต่ก็จะมีบางกลุ่ม บางคน และบางสถานที่ ที่ยังใช้ความเชื่อนี้นับว่าเป็นอาถรรพ์ เป็นลางบอกเหตุ เพื่อใช้เป็นไกด์ไลน์ในการดำเนินชีวิตนั่นเอง
[1] wikipedia (July 18, 2024). จิ้งจกบ้าน. Retrieved from wikipedia
[2] sanook. (Apr 28, 2024). 8 ความเชื่ออาถรรพ์เกี่ยวกับลางสังหรณ์. Retrieved from sanook
พญานาค ในความเชื่อของพราหมณ์และฮินดู เป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งเทพ รูปร่างลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งนาค หรือบางลักษณะเป็นนาคทั้งตัว เป็นเจ้าแห่งโลกบาดาลซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย ทั้งยังได้ชื่อว่าพญานาคเป็นผู้พิทักษ์สมบัติอีกด้วย
ความเชื่อของเรื่องพญานาคนั้นมีมาตั้งแต่ยุคสมัยของอินเดีย ซึ่งเกี่ยวเนื่องกันกับศาสนาพราหมณ์และฮินดู และได้ตกทอดมาถึงประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นไทย ลาว พม่า กัมพูชา ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อในเรื่องนี้ด้วยกันทั้งนั้น
ในความเชื่อของพุทธศาสนา จะปรากฏเป็นรูปงูยักษ์ขนาดใหญ่ มีอิทธิฤทธิ์มากสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ จะอาศัยอยู่ใต้บาดาล แม่น้ำ ทะเล และมหาสมุทร พญานาค ยังทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องเขาพระสุเมรุ เพื่อป้องกันอสูรร้ายขึ้นไปสู่ชั้นดาวดึงส์ ที่รู้จักกันดีก็คือ "พญานาคมุจลินทร์" ซึ่งได้ทำหน้าที่ขดรอบองค์พระพุทธเจ้าและแผ่ป้องกันพระเศียรของพระพุทธองค์ไม่ให้โดนฝนซึ่งขณะนั้นเกิดพายุอย่างหนัก [1]
ในความเชื่อเรื่องนี้ประเทศไทยมีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัย ในความเชื่อของคนไทยในอดีตนั้นเชื่อว่า พญานาคได้อาศัยอยู่บริเวณใต้แม่น้ำโขงซึ่งเป็นแม่น้ำแบ่งเขตระหว่างประเทศไทย-ลาว ตามความเชื่อของคนประเทศลาวก็จะเชื่อเช่นเดียวกันกับความเชื่อของคนไทยด้วย
ในด้านการถือกำเนิดตามความเชื่อคนไทยซึ่งสอดคล้องกับศาสนาพุทธได้เชื่อว่า พญานาคแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้
ตามตำนานยังกล่าวไว้อีกว่า ใต้บาดาลที่มีเหล่าพญานาคอาศัยอยู่ จะปกครองโดยพญานาคซึ่งเป็นกษัตริย์ 9 พระองค์ดังนี้
เป็นวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งโขง ทั้งฝั่งทางประเทศไทยและฝั่งทางประเทศลาว เดิมทีเรียกว่าบั้งไฟผี ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเรียกมาเป็น "บั้งไฟพญานาค" อย่างในปัจจุบันในปี พ.ศ. 2529 บั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นในช่วงวันออกพรรษา หรือ 15 ค่ำเดือน 11 ของทุกๆปี
ลักษณะดวงไฟพุ่งขึ้นมาจากใต้แม่น้ำโขงและลับตาหายไป ซึ่งจำนวนของลูกไฟในแต่ละปีนั้นจะมีมากน้อยต่างกัน ความเชื่อของคนท้องถิ่นเชื่อกันว่าลูกไฟที่พุ่งขึ้นมานั้นเกิดจาก พญานาค ซึ่งอาศัยอยู่ด้านใต้แม่น้ำโขงนั่นเอง [3]
นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
"นะติตัง พญามะ นาคะ อภินัง นาคา สาธุโนภันเต ยะมะ ยะมะ"
นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
กายะวาจาจิตตัง อะหังวันทา
นาคาธิบดี ศรีสุทโธ
วิสุทธิเทวา ปูเชมิ ( 3 ครั้ง )
ให้ถวายน้ำก่อนเสร็จแล้วนำดอกไม้ (ดอกบัว ดาวเรือง มะลิ) ผลไม้จะเป็นจำพวก มะพร้าว ส้ม กล้วย และแอปเปิลหรือจะไหว้โดยไม่ต้องใช้ธูปและไม่ถวายของใดก็ได้ ที่สำคัญคือให้บูชาโดยใช้ภาวนาคาถาและตั้งจิตให้มั่นมีศรัทธาเป็นสำคัญ
มีด้วยกันหลายแห่ง วันนี้จะพาไปรู้จัก 3 แห่งที่มีชื่อเสียง ดังนี้
ท้ายที่สุด หากท่านศรัทธาเชื่อมั่นในองค์พญานาค ก็ต้องตั้งมั่นประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นคนดีอยู่ในศีลธรรม ประกอบกับทำบุญทำทานตามกำลังที่ตนเองมี พรที่ท่านขอจากองค์พญานาคก็จะยิ่งสัมฤทธิผลตามสิ่งที่ท่านขอไว้โดยไว
[1] thairath. (October 11, 2022). ย้อนตำนานพญานาคความเชื่อพลังแห่งศรัทธาลุ่มน้ำโขง. Retrieved from thairath
[2] museumsiam. (September 21, 2022). พญานาคตามความเชื่อในศาสนาพุทธ. Retrieved from museumsiam
[3] วิกิพีเดีย. (December 11, 2023-2024). บั้งไฟพญานาค. Retrieved from wikipedia
[4] วิกิพีเดีย. (October 13, 2022). 7 สถานที่ บูชาพญานาค. Retrieved from trip
"ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่สายมูรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยเสียงร่ำลือที่กล่าวกันว่า"ขออย่างไร ได้อย่างนั้น" และยังมีความเชื่ออีกว่าไอ้ไข่มักจะให้โชคลาภในด้านการเสี่ยงดวงกับคนที่มาบนบานศาลกล่าวได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาหาไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์กันอย่างคับคั่งในทุกๆวัน
วัดเจดีย์ตั้งอยู่ใน อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ย้อนกลับไปเมื่อช่วงก่อนปีพุทธศักราช 2500 วัดเจดีย์มีลักษณะเป็นวัดป่ารกร้าง ขาดการเดูแลเอาใจใส่ทำให้มีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณวัด
พอถึงช่วงปีพุทธศักราช 2500 ชาวบ้านในชุมชนที่มีอยู่มาแต่เดิมก็ได้ร่วมมือร่วมใจกันบูรณะซ่อมแซมวัดให้กลับมาดังเดิม ในช่วงที่ชาวบ้านช่วยกันบูรณะนั้น มีเสียงร่ำลือกันว่าใครที่มานอนค้างที่วัดก็จะถูกก่อกวนจนทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ว่ากันว่าจะมีเด็กคอยมาดึงขาบ้างดึงแขนบ้าง เล่นกันเสียงดังบ้าง จนเป็นที่รู้กันของชาวบ้านว่าถ้าจะมานอนที่นี่ต้องจุดธูปไหว้บอกกล่าวก่อน [1]
ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าไอ้ไข่เป็นลูกของชาวบ้านในชุมชน ที่ชอบมาวิ่งเล่นในบริเวณวัดแห่งนี้และได้จมน้ำตายไป วิญญาณจึงเกิดความผูกพันกับวัดเลยสิงสถิตอยู่ที่นี่ บ้างก็ว่าในอดีตหลวงปู่ทวดได้มาธุดงค์มาปักกลดพักแรมอยู่ในบริเวณวัดเจดีย์ โดยมีไอ้ไข่ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่ทวดติดตามมาด้วย
บริเวณวัดนั้นมีสมบัติซ่อนอยู่มากมาย หลวงปู่ทวดจึงได้ให้ไอ้ไข่เฝ้าสมบัติอยู่ที่นี่ และบางตำนานก็เชื่ออีกว่า ไอ้ไข่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวด หลวงปู่ทวดกำลังจะธุดงค์จากจังหวัดสงขลาไปอยุธยา พอผ่านมาถึงวัดเจดีย์หลวงปู่ทวดท่านสามารถรับรู้ด้วยญาณว่าวัดนี้จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นในภายภาคหน้า ถึงได้มอบหมายให้ไอ้ไข่อยู่ที่นี่ เป็นต้น
ผู้คนที่มากราบไหว้บูชาไอ้ไข่วัดเจดีย์ ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ขออย่างไรได้อย่างนั้น บางคนบินมาจากเชียงใหม่ และมีอีกหลายคนที่มาจากต่างประเทศ ว่ากันว่าเพียงแค่ระลึกถึงและบูชาที่บ้านก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ผู้คนเหล่านี้จึงหลั่งไหลมากราบไหว้บูชาและแก้บนไอ้ไข่เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน
กระแสไอ้ไข่วัดเจดีย์ดังจนผู้กำกับนำไปสร้างภาพยนตร์ออกมา จากตำนานที่เล่าต่อกันมาสู่จอเงิน ด้วยอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ และตำนานที่ถูกกล่าวขานด้วยผู้มีจิตศรัทธาในสายมู "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" จึงได้มีโอกาสไปโลดแล่นอยู่บนจอภาพยนตร์ เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566 นั่นจึงเป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าไอ้ไข่มีกระแสความดังในสังคมมากเพียงใด [2]
สำหรับผู้ที่ต้องการบูชาและบนบานไอ้ไข่วัดเจดีย์ ต้องซื้อดอกไม้ ธูป เทียน และทองคำเปลว ก่อนจะจุดธูป 3 ดอก สวดบทบูชาพระรัตนตรัย และสวดบทนมัสการพระพุทธเจ้า ดังนี้
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ [1]
หลังจากสวดบทสวดข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งจิตเป็นสมาธิ เรียกชื่อ "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" และสวดคาถาไอ้ไข่ ดังนี้ "อิติ อิติ กุมารไข่เจดีย์ จะมะหาเถโร ลาภะ ลาภา ภะวันตุเม" [3]
แล้วจึงเริ่มภาวนาจิตอธิษฐานขอพรให้สมดังต้องการ สมความปรารถนาทุกประการ จากนั้นจึงนำทองคำเปลวไปติดที่รูปไอ้ไข่ เคล็ดลับในการบนบานแนะนำให้ขอเรื่องที่ต้องการทีละเรื่อง และบอกรายละเอียดต่างๆให้ชัดเจน เช่น หากขอเรื่องกิจการการค้าขาย ก็ระบุไปให้ชัดเจนว่าต้องการยอดขายเดือนละเท่าไหร่
หากการขอเป็นเรื่องการงาน ก็ให้ลงรายละเอียดไปว่า ขอให้ได้งานเกี่ยวกับอะไร ขอไว้ที่ไหน ขอให้ได้ภายในวันที่เท่าไหร่ และขอเงินเดือนเท่าไหร่ ซึ่งกลายเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่าไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ "ขอได้ไหว้รับ" นั่นเอง
ให้นำของแก้บนมาให้ไอ้ไข่ และจุดธูป 1 ดอกเท่านั้น สวดบทบูชาพระรัตนตรัย สวดบทนมัสการพระพุทธเจ้า และสวดคาถาบูชาไอ้ไข่ (บทสวดเหมือนตอนที่บนบาน) หลังจากนั้นให้กล่าวว่า "ข้าพเจ้าได้บนบานเรื่อง (บอกกล่าวเรื่องที่ได้บนบานไว้) บัดนี้ ด้วยบารมีของ ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ ทำให้สมปรารถนาแล้วทุกประการ ข้าพเจ้าได้นำของมาถวายเพื่อแก้บน ด้วยถือสัจจะเป็นที่ตั้ง ขอให้การบนบานครั้งนี้ขาดจากกัน นับแต่บัดนี้ด้วยเทอญ"
จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น จะเห็นได้ว่าอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของไอ้ไข่นั้น ได้ดึงดูดมวลชนจากทั่วทุกสารทิศให้หลั่งไหลเข้ามาทำบุญที่วัดเจดีย์อย่างไม่ขาดสาย ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชน และทำให้ผู้คนได้หันหน้าเข้าวัดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
[1] thairath. (December 25, 2020-2024). คาถาและวิธีบูชาไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ไหว้ขอพรอย่างไรให้สมปรารถนา. Retrieved from thairath
[2] workpointtoday. (December 25, 2022-2024). จากตำนานสู่ภาพยนตร์ เตรียมพบกับ ‘ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์’. Retrieved from workpointtoday
[3] aurora. (2020-2024). ไอ้ไข่ อภินิหารแห่งความศักดิ์สิทธิ์. Retrieved from aurora
[4] smk. (2017-2024). ข่าวสารและบทความ. Retrieved from smk
ท้าวเวสสุวรรณ เป็นองค์เทพผู้ยิ่งใหญ่ในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เป็นอธิบดีแห่งอสูร เป็นเทพผู้ปกป้องพระพุทธศาสนาและยังเป็นเทพผู้คุ้มครองของโลกมนุษย์ด้วย คอยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิต อีกทั้งยังเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่มีขุมทรัพย์มากมายมหาศาล
ท้าวเวสสุวรรณเป็นโอรสของพระวิศราวะ ผู้ที่ได้รับพรจากพระพรหมให้มีตำแหน่งเทพเป็นโลกบาล ถือเป็นเจ้าแห่งยักษ์ และยังทรงมีอิทธิฤทธิ์ที่มากอีกด้วย [1]
ในรอบหลายปีที่ผ่านมานี้ กระแสขององค์ท้าวเวสสุวรรณได้ถูกพูดถึงมากมายในสังคมไทย เกี่ยวกับเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ การขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน และรวมถึงความรัก จึงทำให้มีผู้คนหลั่งไหลไปกราบไหว้บูชาขอพรกันอย่างเนืองแน่น
โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า องค์ท้าวเวสสุวรรณ จะประทานพรแก่ผู้ที่ไปสักการบูชาให้เกิดความมั่งมี อยู่ดีกินดี และขจัดภัยพาลที่ไม่ดีทั้งหลายออกไป นอกจากนั้นยังเสริมในด้านของบ้านปีชง และแก้ปีชงได้ด้วย
พุทธคุณขององค์ท้าวเวสสุวรรณ ที่ผู้ศรัทธาสามารถสัมผัสได้มีอยู่หลายสิ่ง ยกตัวอย่างเช่น
ในเมืองไทยนั้นมีสถานที่ที่มีองค์ท้าวเวสสุวรรณประดิษฐานอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ละแห่งก็จะมีความสวยงาม และความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน ผู้คนต่างพากันไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างคึกคัก วันนี้จะขอรวบรวมไว้ให้ท่านผู้อ่าน 5 แห่ง เพื่อผู้ที่มีจิตศรัทธาจะได้ไปสักการบูชาในสถานที่ใกล้บ้านท่านได้
จุดธูป 9 ดอก และบูชาด้วยดอกกุหลาบแดง 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ ทำจิตใจให้สงบแล้วระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หลังจากนั้นให้กล่าว คาถาบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณ ตามด้วย คาถาพญาปุริสาส ซึ่งเป็น บริวารของท้าวเวสสุวรรณ
ทั้งยังเป็นผู้เฝ้าขุมทรัพย์ของ ท้าวเวสสุวรรณ หากได้ฟังหรือสวดเป็นประจำจะมั่งมีมั่งคั่ง มีโชคลาภวาสนา หลังจากกล่าวบทสวดแล้วก็สามารถขอพรขอสิ่งที่ต้องการ โดยห้ามลืมที่จะเอ่ย ชื่อ-นามสกุล ของตัวเองด้วยเสมอ
คาถาบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณ มีทั้งฉบับเต็ม และฉบับย่อ ไม่ว่าจะสวดบทไหนก็สามารถช่วยคุ้มครองได้เช่นเดียวกัน แนะนำให้สวดวันละ 9 จบ ช่วยเสริมดวง โชคลาภ ทรัพย์ อาชีพการงานดี การเงินดี แคล้วคลาด ปลอดภัย ชีวิตดีขึ้น
(ตั้งนะโม 3 จบ)
อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต
เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ
คาถาพญาปุริสาส
นิสินโน สิริสัมปันโน ปุริสาสสะนิธิ อะยัง
ปาลิภาสา พะหุชะนะหิตัง โหติปุริสาสสะปะเลติ
อันตะราโย วินาสสันติ สุวัณโณ มะหัทธะโน
สัมโภคะ ลาภัง ปะติรุโต สังวิภะชันติ สังวิภะชันติ
สังวิภะชันติ ปุริสาสสะปะสิทธิเม
คาถาท้าวเวสสุวรรณ ฉบับย่อ
(ตั้งนะโม 3 จบ)
อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ [3]
ท่านใดที่พอมีเวลาว่าง ก็แวะไปกราบไหว้บูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณได้ตามสถานที่ที่ท่านสะดวก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเอง และครอบครัว
[1] วิกิพีเดีย. (February 13, 2024). ท้าวเวสวัณ. Retrieved from wikipedia
[2] bangkokbiznews. (December 30, 2021-2024). เสริมดวงบูชา “ท้าวเวสสุวรรณ” มีวิธีการและข้อห้ามอะไรบ้าง. Retrieved from bangkokbiznews
[3] sanook. (October 01, 2022-2024). เคล็ดลับบูชาท้าวเวสสุวรรณ อย่างไรให้ได้ผล ช่วยให้เจริญก้าวหน้า และร่ำรวย. Retrieved from sanook
องค์ พระพิฆเนศ หรือ พระคเณศ เป็นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู เป็นพระโอรสของพระศิวะกับพระศรีมหาอุมาเทวี โดยมีลักษณะกายเป็นมนุษย์ เศียรเป็นช้าง มีงาข้างเดียว พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างช้านาน มีความเชื่อว่าหากใครที่ไปขอพรกับพระพิฆเนศนั้นแล้วก็จะประสบความสำเร็จ หากมีอุปสรรคใดๆก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มีความสุขสมหวังดังปรารถนา [1]
มีความเชื่อว่า หากผู้ใดที่มีจิตศรัทธาในองค์ พระพิฆเนศ ได้เดินทางมากราบไหว้ท่าน จะทำให้ผู้นั้นมีแต่ความสุขความเจริญ ประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงาน ไม่มีอุปสรรคใดๆ ราบรื่นตลอดกิจกรรมที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเรียน การเงิน การงาน หรือแม้กระทั่งความรัก
สำหรับการบูชาองค์พระพิฆเนศนั้นสามารถทำได้ทุกวันเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต แต่ถ้าต้องการผลที่เฉพาะควรไหว้ในวันที่ถูกต้องตามความเชื่อ นั่นก็คือวันอังคารและวันพฤหัสบดี สามารถไหว้ได้ทุกคนทั้งชายและหญิง ของไหว้ที่ใช้สำหรับไหว้องค์พระพิฆเนศก็จะมีหลายอย่าง อ้อย, นมวัว, น้ำอ้อย, ขนมต้มแดง, ขนมต้มขาว, ขนมโมทกะ, ขนมหวาน, ข้าวสาร, พืช, ผัก และเกลือเป็นต้น
ประเทศไทยนั้นมีความเชื่อและความผูกพันกับองค์พระพิฆเนศมาอย่างยาวนาน จึงทำให้มีสถานที่สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาในการที่จะไปกราบไหว้ขอพรองค์พระพิฆเนศอยู่หลายแห่ง วันนี้จะมายกตัวอย่างสถานที่สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาไว้ 5 แห่ง ดังนี้
บทสวดพระพิฆเนศแบบสั้น
โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา (สามารถท่องได้ตั้งแต่ 3,5,7,9 จบ แล้วแต่ตามสะดวก)
บทสวดพระพิฆเนศของไทย
โอม พระพิฆเณศวร
สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
ทุติยัมปิ พระพิฆเณศวร
สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
ตะติยัมปิด พระพิฆเณศวร
สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
บทสวดพระพิฆเนศเพื่อความสำเร็จ
โอม ศรีคะเนศายะนะมะ
ชะยะคะเณศะ ชะยะคะเณศะ ชายะคะเณศะ
เทวา มาตา ชากี ปะระ วะตี ปิตามะหา เทวา ละฑุวัน
กา โกคะ ละเค สันตะ กะเร เสวา เอก ทันตะ
ทะยาวันดะ จาระ ภุชา ธารี มาเถ สินทูระ เสเห
มูเส กี อะสะวารี อันธะนะ โก อางขะ เทตะ
โก กายา พามณะนะ โก กุตรร เทตะ
โกทินะ นิระทะนะ มายาฯ [3]
ขั้นตอนการบูชา พระพิฆเนศ ให้นำเครื่องบูชาสักการะ วางไว้ด้านหน้าเทวรูป นำดอกไม้วางไว้หน้าเทวรูป จุดเทียน ธูปหอม กำยาน ต่อหน้าเทวรูป ทำจิตใจให้สงบ ท่องนะโม 3 จบ ต่อด้วยบทสวดพระพิฆเนศ
สำหรับท่านที่ศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ ก็สามารถไปกราบไหว้บูชาองค์ท่านได้ตามสถานที่ที่ใกล้บ้าน นอกเหนือจากการขอพรจากองค์พระพิฆเนศแล้ว เราก็ควรประพฤติปฏิบัติตนให้ดี ต้องอย่าลืมว่าการขอพรเป็นเพียงส่วนหนึ่งในด้านกำลังใจ ท้ายที่สุดตัวเราคือส่วนสำคัญในความสำเร็จในกิจการนั้นๆ ก็ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ มีความสุข ความสมบูรณ์ ดังปรารถนานะครับ
[1] traveltrueid. (August 31 2023-2024). องค์พระพิฆเนศ. Retrieved from traveltrueid
[2] วิกิพีเดีย. (May 01, 2024). พระคเณศ. Retrieved from wikipedia
[3] ananda. (August 30 2022-2024). คาถาบูชาพระพิฆเนศ. Retrieved from ananda