ลิ้นจี่เป็นผลไม้ทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญของประเทศไทยอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งได้รับความนิยมในการบริโภคสูง มีชื่อวิทยาศาสตร์ Litchi chinensis Sonn จัดอยู่ในวงศ์ Sapindaceae ปัจจุบันปลูกกันอย่างแพร่หลายในภาคเหนือของประเทศไทย มีเปลือกผลสีชมพูอมแดง เนื้อข้างในสีขาวขุ่น มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาวและมีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ลิ้นจี่ ผลไม้เปลือกสีแดงที่น่ากินสุดๆ
ลิ้นจี่ถือเป็นอีกหนึ่งผลไม้ขายดี ที่นอกจากจะมีรสชาติหวานอร่อยแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกมากมาย เนื่องจากเกษตรกรสามารถนำผลผลิตที่ได้จากการปลูกมาจำหน่ายในรูปแบบของผลไม้สดหรือผลไม้แปรรูปได้อย่างหลากหลาย ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งยังมีสรรพคุณดีๆอีกเพียบที่ส่งผลดีต่อสุขภาพทำให้ร่างกายแข็งแรง
ลิ้นจี่มีต้นกำเนิดมาจากไหน
ลิ้นจี่ผลไม้มีรสหวานอมเปรี้ยว ที่มีรสชาติถูกใจผู้บริโภค ผลทานสดๆก็อร่อยแถมยังสามารถนำไปแปรรูปเมนูต่างๆได้อย่างหลากหลาย จะมีลักษณะอย่างไรบ้างนั่น ไปดูกันเลย
- ลิ้นจี่เป็นไม้ผลที่มีแหล่งปลูกดั้งเดิม โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนตอนใต้ อยู่ที่แถบมณฑลเสฉวนกวางเจาและยูนนาน ซึ่งนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในแถบภาคเหนือของประเทศไทย ส่วนมากแล้วสายพันธุ์จะมาจากประเทศจีน เช่น พันธุ์ฮงฮวย, พันธุ์กิมเจง, พันธุ์โอเฮียะ, พันธุ์จุดบี้, พันธุ์หน่อมีจือ
- ปัจจุบันลิ้นจี่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน เนื่องจากได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลาย สายพันธุ์ที่นิยมนั่นก็คือ สายพันธุ์จักรพรรดิ, สายพันธุ์กิมเจ็ง, รวมไปถึงสายพันธุ์ฮงฮวยนั่นเอง [1]
ลักษณะทั่วไปของลิ้นจี่
ลิ้นจี่นอกจากผลจะทานสดได้แล้ว ยังสามารถนำเนื้อลิ้นจี่มาทำอาหารกับน้ำดื่มเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย โดยจะมีลักษณะอย่างไรบ้างนั่น ไปดูกันเลย
- ลำต้น : มีลักษณะลำต้นตรง มีเปลือกสีน้ำตาลอมเทา ถ้าต้นแก่เปลือกลำต้นจะขรุขระ เมื่อโตเต็มลำต้นจะสูงประมาณ 10-12 เมตร มีอายุยืนที่ยาวนานมากถึง 25 ปี หรือมากกว่านั้น
- ใบ : ใบมีลักษณะรูปทรงรี ปลายใบแหลม ขอบใบมักเรียบไม่มีหยัก มีเส้นใบแขนงแตกออกมาจากเส้นกลางใบชัดเจนใบอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน เนื้อใบมีทั้งคล้ายกระดาษและคล้ายแผ่นหนัง ท้องใบจะมีสีเขียวอมเทา ซึ่งสีจะอ่อนกว่าด้านหน้าใบ แผ่นใบเรียบหนา
- ดอก : ลิ้นจี่จะแทงดอกออกมาเป็นช่อ ๆ ในบริเวณปลายยอด ช่อดอกจะประกอบด้วย ก้านช่อหลักกับก้านช่อแขนงแยกออกมา ดอกจะมีขนาดเล็กประมาณ 3-5 มิลลิเมตร มีกลิ่นหอม ดอกจะมีสีเหลืองอมเขียว
- ผล : ลักษณะของผลลิ้นจี่จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก มีทั้งผลรูปทรงรี, ทรงกลม, ทรงรูปหัวใจ มีผิวเปลือกที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่เปลือกจะมีสีแดงสดหรือสีชมพูแดง แต่มีลักษณะที่คล้ายกันคือ มีเนื้อขาวใสฉ่ำน้ำ รสชาติหวานอมเปรี้ยวจนถึงหวานจัดขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
- ราก : ระบบรากแก้วของต้นลิ้นจี่ จะมีลักษณะกลม รากจะแทงลึกลงไปในพื้นดิน มีรากแขนงแยกออกมาตามแนวราบ จะประกอบไปด้วยรากฝอยเล็กๆนั่นเอง
- เมล็ด : เมล็ดสีน้ำตาลเข้ม ผิวเรียบมัน มีขั้วเมล็ดที่เชื่อมกัน ขั้วผลจะมีสีขาว [2]
สายพันธุ์ของลิ้นจี่ที่นิยมปลูกในภาคเหนือและประโยชน์ที่ได้รับ
ลิ้นจี่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่นิยมปลูกในภาคเหนือ เนื่องจากมีรสชาติที่หวานอร่อยแล้ว น้ำของลิ้นจี่ที่ดื่มเข้าไปยังทำให้ช่วยทำร่างกายสดชื่น ถือเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีสรรพคุณดีๆอีกเพียบที่ซ่อนอยู่ ผลสดทานง่ายแถมยังสามารถนำไปทำเมนูของหวานได้อย่างหลากหลาย เช่น ลิ้นจี่ลอยแก้ว, ลิ้นจี่ปั่น, สมูทตี้ลิ้นจี่โยเกิร์ต ทานแล้วดีต่อใจสุดๆ
สายพันธุ์ลิ้นจี่ที่เกษตรกรนิยมปลูก
ลิ้นจี่สำหรับภาคเหนือสายพันธุ์ลิ้นจี่ที่นิยมปลูกมากที่สุด มีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ฮงฮวย, พันธ์จักรพรรดิ, พันธุ์กิมเจ็ง, พันธุ์โอวเฮียะ, เนื่องจากทั้ง 4 สายพันธุ์นี้ มีรสชาติที่อร่อยจึงได้รับความนิยมบริโภคกันอย่างมาก โดยจะมีลักษณะดังนี้
- พันธุ์ฮงฮวย : ผลมีลักษณะทรงยาวรีคล้ายรูปไข่ เปลืองบางสีผิวแดงปนชมพู เนื้อสีขาวขุ่น มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เมล็ดค่อนข้างโต ต้นจะทรงพุ่มใหญ่ ลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา ใบมีสีเขียว ใบมีลักษณะหนา ปลายใบไม่ค่อยแหลม ให้ผลดกติดผลผลิตดีอย่างสม่ำเสมอ
- พันธุ์จักรพรรดิ : ผลมีลักษณะทรงหัวใจกลม ขนาดเปลืองหนาสีผิวแดงเข้ม เนื้อหนามีสีขาวขุ่น รสชาติหวานฉ่ำน้ำ เมล็ดมีขนาดโต ต้นจะทรงพุ่มใหญ่ ใบมีขนาดใหญ่ ใบมีสีเขียวเข้ม สายพันธุ์นี้จะต้องการอากาศเย็นจัด
- พันธุ์กิมเจ็ง : ผลมีลักษณะทรงกลม เปลืองมีหนามใหญ่ห่างมีสีผิวแดงอมชมพู เนื้อหนามีสีขาวขุ่น รสชาติหวาน เมล็ดค่อนข้างโต ต้นจะทรงพุ่มเล็ก ต้นจะค่อนข้างโตช้า พันธุ์นี้จะแบ่งออกได้อีก 2 พันธุ์ย่อยกิมเจ็งหนามแหลมกับกิมเจ็งหนามราบ ออกดอกติดผลค่อนข้างยาก
- พันธุ์โอวเฮียะ : ผลมีลักษณะทรงคล้ายรูปหัวใจป้อมมีไหล่สูงทั้งสองด้าน ผลมีขนาดเล็กเปลืองหนาเนื้อหนามีสีขาวขุ่น ผิวของผลมีสีแดงเลือดนกค่อนข้างคล้ำ มีกลิ่นหอม เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ ต้นจะทรงพุ่มเล็ก ใบเล็กยาวมีสีเขียวเข้มยอดอ่อนสีแดง พันธุ์นี้ติดดอกออกผลไม่ค่อยสม่ำเสมอ [3]
สรรพคุณอันน่าทึ่งของลิ้นจี่
ลิ้นจี่ผลไม้ที่มีลักษณะเปลือกสีแดง มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถนำเนื้อของลิ้นจี่มาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม มีรสชาติที่หวานชื่นใจอร่อย ช่วยแก้กระหายน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณอีกมากมาย โดยมีดังต่อไปนี้
- ผลรับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างสูง
- ลิ้นจี่มีส่วนต่อต้านมะเร็ง ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- มีสรรพคุณช่วยแก้อาการไอเรื้อรังกับช่วยแก้อาการคัดจมูก โดยจากเปลือกของผลใช้ทำเป็นชาชงดื่มแก้อาการหวัดได้ อีกทั้งยังช่วยแก้การติดเชื้อในลำคอ
- ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน, ช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหาร, ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ช่วยบรรเทาอาการไม่ปกติของระบบทางเดินอาหาร, ช่วยแก้อาการท้องเสียชนิดไม่รุนแรง, ช่วยปกป้องหรือรักษาตับ
- ช่วยรักษาอาการปวดท้องกับช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
- รากลิ้นจี่กับเปลือกของลำต้น สามารถใช้แก้อาการติดเชื้อไวรัสกับโรคอีสุกอีใสได้ [4]
สรุป ลิ้นจี่ ผลไม้เพื่อสุขภาพที่ดี
ลิ้นจี่ ผลไม้ทางเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการบริโภค มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว อร่อยดีต่อใจสุดๆ บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังสามารถนำมาแปรรูปได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างสูง อีกทั้งยังมีประโยชน์และสรรพคุณดีๆอีกเพียบที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
อ้างอิง
[1] food.trueid.net. (November 15, 2022). ประโยชน์ของลิ้นจี่ สรรพคุณดี วิตามินซีสูง สดชื่น แก้กระหายน้ำได้ดี. Retrieved from food.trueid.net
[2] researchex. (2024). ลิ้นจี่ ผลไม้ขายดี พืชเศรษฐกิจโกยเงิน. Retrieved from researchex
[3] eto.ku. (2024). ลิ้นจี่. Retrieved from eto.ku
[4] medthai. (July 05, 2020). ลิ้นจี่ สรรพคุณและประโยชน์ของลิ้นจี่ 27 ข้อ !. Retrieved from medthai