เพชรสี หายาก อัญมณีทรงคุณค่าที่ทุกคนอยากครอบครอง

เชื่อว่าความฝันของสาวๆทุกคน ย่อมต้องการจะมีเครื่องประดับที่สวยงามสักชิ้นและความงดงามที่เรียกว่า เพชรสี คือสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการนั้นแน่นอน จากความผิดพลาดของธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทำให้เพชรเหล่านี้มีลักษณะที่ต่างไปจากเพชรใสที่มีอยู่ทั่วโลก

แม้ว่าจะมีจำนวนเพียงแค่เล็กน้อย แต่เป็นเพชรที่มีคุณค่าอย่างมาก เพราะหาได้ยาก ราคาแพง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เพชรเหล่านี้กลายเป็นที่สนใจทั่วโลก และเมื่อทุกคนพร้อมที่จะทำความรู้จักกับเพชรแฟนซีกันแล้วไปดูพร้อมๆกันได้เลย

เพชรสี แฟนซีเกิดจากอะไร

ในชีวิตประจำวันของคนเรามักพบเห็นการสวมใส่เพชรสีในงานหมั้น งานแต่งงาน หรือในงานตามอีเว้นท์ต่างๆที่มีการจัดแสดงเพชรต่างๆ บางคนอาจเลือกซื้อเพื่อสะสมเป็นเครื่องประดับที่มีราคาแพง ซึ่งเพชรไม่ได้มีเพียงแค่สีใสอย่างที่บางคนรู้จัก

แต่มาในความหรูหราแบบแฟนซีให้ได้ชมหลากหลายสี สำหรับนักสะสมเพชรหายากมักมองหาเพชรสีเป็นตัวแรกๆในการสะสม ยิ่งมีความแปลก สวย มีโอกาสพบน้อยมากเท่าไร มูลค่าของเพชรก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ที่มาของ เพชรสี แฟนซีมาจากไหน

ก่อนที่จะมาเป็นเพชรสีที่มีมูลค่าสูงให้ได้เลือกซื้อต้องผ่านกระบวนการเกิดหลายขั้นตอน โดยสาเหตุที่ทำให้เพชรไม่ได้ใสมีหลายสาเหตุ ความผิดพลาดในการเกิดนี้เองทำให้เกิดเพชรสีขึ้น ซึ่งสีที่พบมีได้หลายสียกตัวอย่างเช่น สีเหลือง น้ำตาล ฟ้า แดง เขียว ชมพู ส้ม ม่วง และดำ เป็นต้น หากสีของเพชรที่พบมากจะเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาล นอกจากสองสีนี้แล้วสีอื่นๆจะหาได้ยากมากกว่า

อีกทั้งเพชรแต่ละเม็ดมีความต่างกันของเฉดสีด้วย ไม่ได้สีโทนเดียวกันหมด มีตั้งแต่สีอ่อนจางค่อยๆเข้มขึ้นไปถึงสีสดใส ลักษณะสีที่ได้บอกไปทั้งหมดนี้ สามารถสังเกตได้โดยการแหงนหน้ามอง ส่วนสาเหตุของแต่ละสีมาจากอะไรมีรายละเอียดดังนี้

• เพชรสีฟ้า / น้ำเงิน (Blue Diamond) : เกิดจากการปะปนของอะตอมโบรอนในผลึกของเพชร เนื่องจากส่วนประกอบหลักของเพชรคือคาร์บอน ถึงแม้จะมีโบรอนปะปนอยู่กับคาร์บอนหนึ่งต่อหนึ่งล้าน ก็สามารถสร้างสีฟ้าขึ้นได้ เป็นเพชรที่หายากรองลงมาจากเพชรสีแดง
• เพชรสีเหลือง (Yellow Diamond) : เกิดจากการปะปนของไนโตรเจน ทำให้เพชรดูดเพียงแค่สีฟ้า และแสดงสีเหลืองออกมา เพชรสีเหลืองพบได้มากที่สุดรองลงมาจากเพชรสีใสปกติ เป็นที่ต้องการของตลาดเนื่องด้วยเพชรสีส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลืองเกือบ 60% ราคาไม่แพงทุกคนแตะต้องได้ง่าย
• เพชรสีเขียว (Green Diamond) : เกิดจากการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีที่มีพลังงานสูง ทำให้การเรียงตัวของคาร์บอนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องส่งผลให้เพชรดูดซับสีแดงเอาไว้ส่งแค่สีเขียวออกมา ทั้งนี้อาจจะเกิดจากการปนเปื้อนของแร่ธาตุบางชนิด เช่น ไฮโดรเจน นิกเกิล เป็นต้น
• เพชรแดง / เพชรชมพู (Red Diamond/ Pink Diamond) : เกิดจากการอยู่ภายใต้อุณหภูมิและแรงกดดันที่สูงมาก ซึ่งกระทำต่อเพชรในทุกทิศทาง จนทำให้การเรียงตัวของอะตอมผิดเพี้ยน โดยเพชรสีแดงจะพบได้ยากกว่าเพชรสีชมพู และพบได้ยากมากที่สุดในโลก โดยเพชรสีแดงที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 2011 ชื่อว่า Moussaieff Red Diamond มีขนาด 5.11 กะรัต เป็นเพชรที่มีราคาสูงถึง 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
• เพชรสีม่วง (Purple Diamond) : เกิดจากไฮโดรเจนที่มีสูงมากกว่าปกติ เป็นเพชรที่หายากมากกว่าเพชรสีชมพู เนื่องจากมีสีที่มืดกว่า
• เพชรสีส้ม (Orange Diamond) : เกิดจากการผสมสีระหว่างสีแดงกับสีเหลือง และเกิดจากการมีไนโตรเจนอยู่ในโครงข่ายของคาร์บอนเพชร โดยสีที่พบจะมีตั้งแต่สีแดงส้มจนถึงเหลืองส้ม
• เพชรสีดำ (Black Diamond) : เกิดจากคาร์บอน หรือแกรไฟต์ เป็นเพชรอีก 1 สีที่หายากเช่นกัน  จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมด้วย [1]

เลือกเพชรสีแบบไหนแพงที่สุด

การเลือกซื้อเพชรสีสำหรับนักสะสมมือใหม่ อาจเริ่มต้นด้วยเพชรที่พบหาได้ง่าย มีราคาไม่สูงมาก อย่างเพชรสีเหลืองและเพชรสีน้ำตาล ส่วนเพชรสีอื่นๆที่หายากขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างเพชรสีม่วง ส้ม ฟ้า เขียว และชมพู สีเหล่านี้จะมีราคาที่แพงกว่าเป็นอย่างมาก ยิ่งมีโอกาสพบน้อยเท่าไรราคาก็ยิ่งพุ่งควบคู่ขึ้นไป

การประเมิน เพชรสี ต้นแบบที่มีคุณภาพ

กว่าจะได้เพชรสีที่สวยงามและทรงคุณค่าแต่ละเม็ด ต้องผ่านขั้นตอนการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อเป็นการการันตีว่าเพชรเม็ดนั้นได้คุณภาพจริง ผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์อัญมณี กระบวนการทั้งหมดนี้ช่วยให้นักลงทุนที่ต้องการครอบครองเพชรมั่นใจว่าเพชรที่เลือกซื้อเป็นของจริงได้มาตรฐาน หลักๆจะมีขั้นตอนการตรวจสอบแบบไหนดูไปพร้อมๆกันได้เลย

ลักษณะเพชรสีตรงตามต้นแบบที่ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ

ก่อนที่นักสะสมเพชรสีจะนำเงินก้อนใหญ่มาลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงนี้ เพชรที่คุณจะเลือกซื้อต้องผ่านลักษณะของเพชรต้นแบบ ตามลักษณะดังนี้

1. รูปกลม เจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร (Round Brilliant Cut)
2. น้ำหนักต่อเม็ดต้องไม่ต่ำกว่า 0.30 กะรัต
3. ต้องไม่มีตำหนิภายในที่ส่งผลต่อการมองเห็นสีของเพชร ยกตัวอย่างเช่น มีตำหนิภายในที่มีสี (แดง / ส้ม /น้ำเงิน เป็นต้น) รวมถึงผลึก รอยแตก หรือของเหลวที่อยู่ในเนื้อเพชรที่ทำให้เกิดการสะท้อนของสีภายในตัวเนื้อเพชร
4. ต้องไม่เรืองแสงหากอยู่ใต้แสงอัลตราไวโอเลต และสามารถตรวจสอบด้วยเครื่องวิเคราะห์การเรืองแสง (Fluorescence) [2]

คุณค่าของ เพชรสี ระดับต่างๆ

คุณค่าของเพชรสีมีความแตกต่างกัน โดยจะมีตั้งแต่คุณภาพดีที่สุดลงมาจนถึงระดับคุณภาพสีของเพชรธรรมดาทั่วไป

• ระดับคุณภาพสีที่ดีที่สุด : ระดับ D (100) เป็นเพชรที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพชรสีที่ดีที่สุด มีมูลค่าและคุณค่าที่เหมาะสำหรับการเก็บหรือมอบให้ลูกหลานสืบต่อไป
• ระดับคุณภาพสีที่ดีมาก : ระดับ E (99) , F (98) เป็นเพชรคุณภาพสูงที่เหมาะสำหรับการสวมใส่เป็นเครื่องประดับ เพื่อสะท้อนรสนิยมของผู้ใส่ที่มีความโดดเด่น
• ระดับคุณภาพสีที่ดี : ระดับ (97) เป็นเพชรคุณภาพสูงที่มีราคาแพงเหมาะแก่การสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือเลือกซื้อในโอกาสพิเศษต่างๆ
• ระดับคุณภาพสีปานกลาง : ระดับ H(96) , I (95) , J (94) เป็นเพชรที่เหมาะสำหรับการสวมใส่ทั่วไป
• ระดับคุณภาพสีธรรมดา :  ระดับ K(93) , L (92) , M (91) เป็นเพชรที่เหมาะกับการสวมใส่มุ่งเน้นที่สไตล์ของเพชร แต่ไม่ได้เน้นสีของเพชร [2]

สรุป สะสม เพชรสี การลงทุนที่ยั่งยืนมีแต่ได้กับได้

สำหรับการลงทุนกับ เพชรสี ในตลาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเพชรเป็นของสะสมที่มีมูลค่าสูงขึ้นตามเวลา อีกทั้งยังมีความสวยงาม หรูหรา ยิ่งในปัจจุบันมีการปิดตัวของเหมืองผลิตเพชรมากขึ้น ทำให้เพชรพบได้ยากมากขึ้น เหตุนี้จึงทำให้ความต้องการทางด้านตลาดพุ่งสวนกระแสไปอีก ไม่ว่าจะลงทุนกับเพชรสีไหน บอกได้เลยว่าโอกาสที่จะรับเงินก้อนแน่นอน [3]

อ้างอิง

[1] gloriousdiamonds. (2024). รวมเพชรสี เพชรหายาก ที่ใครก็อยากครอบครอง. Retrieved from gloriousdiamonds

[2] aiyaragems. (2024). หลักปฏิบัติในการประเมินคุณภาพสีเพชร. Retrieved from aiyaragems

[3] infocenter. (August 21, 2023). เสน่ห์ของเพชรสีแฟนซี อัญมณีทรงคุณค่าที่คุณคู่ควร. Retrieved from infocenter