Facet แปลว่า ด้าน หรือถ้าเป็นในเกม Dota 2 จะแปลไทยว่า มิติ ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเกม ตอนที่อัปเดต 7.36 เป็นต้นมา ได้มีการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มเติมอะไรเข้าไปหลายอย่าง และเจ้ามิติก็คือหนึ่งในเรื่องใหญ่ที่ได้ถูกเพิ่มขึ้นมา ทำให้เกมมีอรรถรส กับทางเลือกต่อฮีโร่ที่หลากหลายมากขึ้น
ฟาเซท คือการเพิ่มสกิลทางเลือกพิเศษ ให้กับตัวละครนั้นๆ โดยส่วนใหญ่จะมีให้ตัวละ 2 สาย แต่ก็มีฮีโร่บางตัวที่มีตัวเลือกมากกว่า 2 สาย พอมีการอัปเดตตัว Facet ขึ้นมา นั่นจึงเป็นทางเลือกสำหรับฮีโร่ ที่เพิ่มมากขึ้น เอาไปปรับใช้ในสายการเล่นเป็นตัวหลัก (Core) หรือตัวรอง (Support) จากบางตัวที่เป็นแต่ตัวหลักก็จะถูกนำไปเป็นซัพพอร์ตได้
ในเกมๆนี้ มีตัวละครที่ผู้เล่นจะได้เลือก เพื่อใช้ต่อสู้และเอาชนะคู่แข่ง โดยจะเรียกพวกเขาว่า ฮีโร่ (Hero) แต่ละตัวจะมีความสามารถ (Skill) ที่แตกต่างกัน ต้องประเมินเอาว่าในแต่ละเกมควรเป็นฮีโร่ตัวไหน หรือความใช้สกิลในจังหวะได้ ก่อนที่ 7.36 จะมานั้น แต่ละตัวจะเลือกวิธีเล่นตามสกิลหลักที่มี ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกอันไหนมาก่อนเพียงเท่านั้นเอง
พอการที่มี มิติ เข้ามาเป็นหนึ่งในทางเลือก ฮีโร่ที่เรารู้จักหลายตัวจึงต้องถูกปรับเปลี่ยน และหาวิธีการเล่นใหม่ๆ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอะไรที่สนุกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก การจะใช้มิติคอมโบกับเพื่อนในทีม รวมไปถึงการทำให้ตัวเราเก่งขึ้นมานั้น พอมีทางเลือกที่มากขึ้นความสนุกก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก
หลักๆรูปแบบก็จะมีประมาณนี้ ซึ่งเมื่อมีการเลือกใช้แล้ว ก็จะอยู่กับ Facet นั้นไปจนจบเกมรอบนั้น แต่ก็ขอบอกเลยว่ามีผลกับการเล่นเกมในแต่ละรอบมากๆ เพราะฉะนั้นแล้วก่อนเกมจะเริ่มต้องตัดสินใจให้ดี ว่าเกมนี้เหมาะกับรูปแบบใด
ข้อมูลเหล่านี้ถูกอ้างอิงมาจาก Dotaprotracker เว็บที่รวบรวมข้อมูลของผู้เล่นโดตาระดับท็อปของโลกไว้ แล้วนำข้อมูลมาให้คนทั่วไปได้เข้าไปดูและลองศึกษากัน
เมื่อใดก็ตามที่มีการอัปแพทช์ ไม่ว่าจะเกมไหน หรือโปรแกรมอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แม้ช่วงแรกๆอาจจะงง แต่พอนานเข้าเราเริ่มคุ้นเคยกับมัน ก็จะออกผลลัพธ์ที่แสนสนุกสนาน และน่าตื่นเต้นได้อย่างไม่รู้จบ เหมือนกับความสนุกของ Dota 2 เกมที่คนทั่วโลกต่างยอมรับมัน
แต่ก็ต้องคอยดูเสมอว่าเมื่อมีการอัปเดตใหม่แล้วจะเจอบัคอะไรบ้าง ซึ่งทางผู้พัฒนาเกมอย่าง Valve ก็จะต้องมีการออกตัวแก้ และตอนนี้ก็ได้ออกมาเป็น Patch 7.36C ซึ่งใช้งานมาจนถึงตอนนี้